ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ขายไม่ได้ ทำยังไงดี?

เสียงบ่นพึมพำ.........
ทำไมขายห้องไม่ได้เลย ?
ยอดขายไม่ดีเลย ?
ปีนี้เศรษฐกิจไม่ดีมั๊ง เลยเป็นแบบนี้
ทำไมโรงแรมนั้นยังมีลูกค้าเต็มอยู่เลย?
จะไปออกบูธอีกดีมั้ยปีนี้ ?
ทำไมปีนี้ มันเงียบจัง ?

สารพัดเสียงบ่นพึมพำถึงขั้นดังออกมาในกลุ่มเพื่อนฝูงที่ทำงานในแวดวงโรงแรมที่พักและการท่องเที่ยวต่างๆ มีให้เห็นกันทุกปี ทุกฤดูกาล ทุกช่วงเวลา จนบางครั้งไม่แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากการเปรียบเทียบกับอะไร เปรียบเทียบกับใคร และมีตัวชี้วัดอะไรมาประเมินผลที่ผ่านมา

สิ่งที่อยากจะแนะนำ เมื่อคุณ "รู้สึก" ว่ายอดขายของคุณไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ให้ลงมือทำดังต่อไปนี้
1) รวบรวมตัวเลขสถิติยอดขายที่ผ่านมา ย้อนหลังไปหลายปีได้ยิ่งมีประโยชน์ สำหรับโรงแรมที่พักที่เปิดดำเนินการแล้ว ส่วนใครที่เป็นโรงแรมที่พักเพิ่งเปิดใหม่ พยายามหาบทความ ตัวเลขสถิติจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จากธนาคารแห่งประเทศไทย หรือศูนย์วิจัยต่างๆ แม้กระทั่งบทความทางเศรษฐกิจท่องเที่ยวที่ผ่านมานำมาพิจารณา
เมื่อได้ตัวเลขสถิติแล้ว ให้นำมาย่อยให้เข้าใจ อาจแบ่งเป็นช่วงเวลา เช่น รายเดือน รายไตรมาส รายครึ่งปี รายปี แล้วแต่ที่ต้องการจะประเมินผลเปรียบเทียบว่าต้องการเปรียบเทียบในระยะเวลา หรือช่วงเวลาแบบไหน

หากตัวเลขสถิติเก็บแบบละเอียดถึงขั้นที่มาของยอดขายว่ามาจากตลาดใด ก็จะยิ่งดีมากๆ  เทคโนโลยีและโปรแกรมการบริหารจัดการโรงแรมในปัจจุบันสามารถช่วยคุณเก็บสถิติได้อย่างละเอียดเท่าที่คุณต้องการ (อยู่ที่คุณจะนำมาใช้ประโยชน์หรือไม่อย่างไร)  ส่วนโรงแรมที่พักเปิดใหม่ เพิ่งจะเริ่มดำเนินการ นี่เป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมที่คุณจะเริ่มเก็บข้อมูลให้ละเอียด  ออกแบบการจัดเก็บข้อมูลเลย อย่ารีรอ

2) วิเคราะห์ช่องทางการขาย และการตลาดที่ผ่านมา ว่าแต่ละตลาด คุณได้ทำกิจกรรมอะไรไปบ้าง ทำไปเมื่อไหร่ ผลตอบรับเป็นอย่างไร ผลต่อเนื่องที่ได้รับเป็นอย่างไร  และที่สำคัญใช้งบประมาณไปเท่าไหร่ในแต่ละตลาด แต่ละช่องทางการขาย

หากคุณไม่เคยคิดต้นทุนในแต่ละช่องทางการขาย จงเริ่มคิดคำนวณได้เลย เช่น ตลาดออนไลน์เอเย่นต์ หรือพวก OTA แต่ละราย คุณต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น ค่าธรรมเนียมต่างๆ เบ็ดเสร็จรวมแล้วคิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อหนึ่งบุ๊คกิ้ง (cost per booking) เป็นอย่างไร คูณกับจำนวนคืนของห้องพัก (Room night) ที่คุณขายได้ ก็จะได้ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

3) เมื่อมีตัวเลขทั้งข้อ 1) คือฝั่งรายได้  และ ข้อ 2) คือฝั่งค่าใช้จ่าย เรียบร้อย คราวนี้ก็มานั่งเปรียบเทียบผลของแต่ละช่องทางการตลาด  โดยให้วิเคราะห์ดังนี้
3.1  เราให้น้ำหนัก หรือใส่กิจกรรมกับช่องทางการตลาดที่ไม่ให้ผลตอบแทนที่ดีมากเกินไปหรือเปล่า
3.2 กิจกรรมการขายและการตลาดตลอดทั้งปี เราไปกระจุกตัวอยู่กับช่องทางใดช่องทางหนึ่งเกินไปหรือเปล่า
และข้อที่สำคัญ 3.3 กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณ ใช้ช่องทางไหนมากที่สุด  หรือช่องทางการขายและการตลาดแบบไหนที่เข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้ดีที่สุด  มีค่าใช้จ่ายที่ประหยัดและเหมาะสมกับขนาดของธุรกิจของคุณมากที่สุด


แนะนำให้ทำ 3 ขั้นตอนนี้ให้เรียบร้อยก่อน ค่อยบ่นพึมพำต่อว่าขายไม่ได้ ขายไม่ได้

#รู้ให้จริงทำให้เป็น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

#SM1-02 : Channel Manager คืออะไร?

สมัยก่อนการที่โรงแรมที่พักขนาดเล็กจะเปิดขายห้องพักผ่านทางช่องทางการขายออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการขายผ่านทางเว็บไซต์ของโรงแรมโดยตรง หรือขายผ่านทางออนไลน์เอเย่นต์หรือ OTA (Online Travel Agent) เป็นไปด้วยความไม่สะดวกมากนัก ทั้งในด้านเวลาที่ต้องใช้ในการจัดการผ่านทางสัญญาณอินเตอร์เน็ทที่ยังไม่ค่อยมีความเสถียร ทั้งในเรื่องจำนวนห้องพักที่จำกัดของโรงแรมที่พักขนาดเล็ก ทำให้การจัดสรรห้องพักให้เพียงพอต่อการขายและความต้องการของเอเย่นต์ในแต่ละช่องทางการขายมีอุปสรรคและปัญหาในหลายๆกรณี เช่น มีห้องพัก 15 ห้อง อยากขายผ่านออนไลน์กับเอเย่นต์มากมายเกือบ 10 ราย แต่เมื่อมีห้องน้อย ก็ไม่กล้าที่จะเปิดห้องขายกับหลายเอเย่นต์ เพราะกลัวจะไม่สามารถจัดสรรห้องขายได้ตามที่ควรจะเป็น กลัวห้องล้น หรือขายห้องซ้ำกันเกิดเป็น Double booking หรือ overbooked ในช่วงเทศกาล  การเปิดปิดห้องพัก ต้องเข้าไปทำทีละเอเย่นต์ เพราะฉนั้นยิ่งทำสัญญาเปิดขายมากเอเย่นต์เท่าไหร่ ก็ต้องเข้าไปเปิดและปิดห้องพักทีละเอเย่นต์เป็นต้น หลายปีที่ผ่านมามีโปรแกรมที่เข้ามาช่วยจัดสรรการขายในแต่ละช่องทางการขายเกิดขึ้นและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว หรือที่

SM1-04 : Lead Time คืออะไร

Lead Time คืออะไร หมายถึงอะไร นำมาใช้เกี่ยวกับโรงแรมได้อย่างไรบ้าง วันนี้เรามาแบ่งปันความรู้ ประสบการ์ณและทำความเข้าใจกัน โดยความหมายของคำศัพท์แล้ว จะหมายถึงระยะเวลาตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการจนเสร็จสิ้นกระบวนการ แล้วเกี่ยวอะไรกับโรงแรม ? สำหรับโรงแรมที่พักแล้วคำว่า Lead Time เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องได้ในหลายขั้นตอน แล้วแต่การนำมาใช้งาน หรือใช้เรียกในระหว่างกระบวนการการทำงาน เช่น + ระหว่างการก่อสร้าง  โรงแรมจะมีการวางแผนการสั่งเครื่องมือเครื่องใช้และอุปกรณ์ในการทำงานต่างๆ ซึ่งต้องมีการวางแผนและหาข้อมูลว่าเครื่องมือ เครื่องใช้ หรืออุปกรณ์อะไรบ้างที่มีระยะเวลาการสั่งสินค้าที่ต้องใช้เวลานานตั้งแต่การสั่งซื้อจนถึงการส่งมอบสินค้าเพื่อให้โรงแรมติดตั้ง  เช่น โรงแรมที่จำเป็นต้องใช้ลิฟต์โดยสาร หรือลิฟต์ขนของ สินค้ารายการนี้เป็นสินค้าที่ต้องใช้เวลาในการสั่งสินค้า และหากต้องการเลือกแบบที่ออกแบบเฉพาะของโรงแรม ลวดลายบนผนังห้องโดยสาร แผงปุ่มกด ราวจับภายในห้องลิฟต์ อาจต้องใช้เวลานานเพิ่มขึ้น หรือแม้การเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ในห้องโดยสารก็อาจมีผลต่อระยะเวลาการสั่งสินค้า   ดังนั้นทีมควบคุมการก่อสร

SM2-02 : สื่อสารผ่านโซเชี่ยล ให้รวดเร็ว คุณทำได้

ครั้งที่แล้วเราพูดกันไปถึงวิธีการจัดการกับการใช้สื่อโซเชี่ยลให้มีประสิทธิภาพโดยการมองภาพรวมให้เห็นว่าเราทำอะไรได้บ้าง และควรวางกรอบในการใช้สื่อแต่ละประเภทอย่างไรให้ประสานงานกันได้อย่างลงตัว คราวนี้เรามาดูเพิ่มเติมว่า สิ่งที่เราสามารถลงมือทำได้ก่อนเลยมีอะไรบ้าง สำหรับโรงแรมที่พักขนาดเล็กที่มักจะมีปัญหาว่า ตอบคำถามลูกค้าไม่ทัน หลังมีรีวิวเผยแพร่ภาพสวยๆของโรงแรมคุณ ทำให้มีลูกค้าสนใจสอบถามเข้ามามากมาย จนบางโรงแรมไม่สามารถจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ และทำให้ลักษณะการสื่อสารกับลูกค้าเปลี่ยนไปจากที่เคยน่ารัก ก็กลายเป็นไม่น่ารัก จนถึงระบายอารมณ์กับลูกค้าไปบ้างในบางครั้งเมื่อถูกเร่งมากๆ ถ้าเราทำความเข้าใจตั้งแต่แรกว่าโลกออนไลน์ คือ ความรวดเร็วและเทคโนโยลี สิ่งที่เราควรทำคือ "การเตรียมการที่ดี" และเรียนรู้การใช้สื่อต่างๆอย่างถูกต้อง รู้ว่าแต่ละเครื่องมือมีทางเลือกอะไรบ้าง มีฟังก์ชันการใช้งานอะไรที่จะช่วยเราให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้นได้บ้าง และในแบบไหน การที่เมื่อเกิดปัญหาขึ้น แล้วไปโทษโน่น โทษนี่ อันนี้คงไม่ใช่การบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ เรามาดูกันทีละขั้นตอนว่าเราสามารถ &quo