ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

SM1-06 : ทำโรงแรมอย่างไร ให้ก้าวไปในยุค 4.0 ?

ยุคสมัยที่การสร้างคำเพื่อดึงดูดความสนใจยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่องเสมอมาจนบางครั้งเราขาดการหยุด คิด พิจารณา ถึงสาระสำคัญและเนื้อหาภายใต้ข้อความเหล่านั้นว่าคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร และเราจำเป็นจะต้องทำตัวตามกระแสข้อความเหล่านั้นด้วยหรือไม่ ยิ่งในยุคที่การอบรมสัมนาได้รับความนิยมหรือการตั้งตนเป็นผู้รู้ในเรื่องต่างๆ กระแสการสร้างคำ การสร้างข้อความก็ยิ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่หลายๆคนก็ได้รับความผิดหวังเมื่อได้เข้าไปสัมผัสการบรรยายจริง และกลับออกมาบ่นว่า "ไม่เห็นมีอะไรเลย" ตั้งหัวข้ออบรมแบบเรียกลูกค้าน่าดู ....อันนี้คงเป็นเรื่อง "จริต" ของแต่ละคน ใครชอบแบบไหน ก็ตามจริตของตนไปแบบนั้น

ก่อนจะเกริ่นไปไกล เรามาวกกลับเข้าเรื่อง 4.0 กันก่อนดีกว่าว่า เมื่อผู้นำประเทศชักชวนให้เราเดินหน้าไปโดยใช้คำแบ่งช่วงการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศโดยเรียกแต่ละยุคแต่ละสมัยเป็นตัวเลข เรามาลองคิดเปรียบเทียบกันดูว่า เราจะแปลความหมายในเรื่องนี้เข้ากับธุรกิจโรงแรมได้อย่างไรบ้าง 

การส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศที่ผ่านมา พอจะแบ่งได้ดังนี้
1.0  เน้นเรื่องการลงทุนในภาคเกษตรกรรม
2.0  เน้นเรื่องการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเบา ที่เน้นการใช้แรงงาน เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ
3.0  เน้นเรื่องการลงทุนในอุตสาหกรรมหนักและเน้นการส่งออก
และ 4.0 คือมุ่งหวังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม

หากนำมาเปรียบเทียบในทางด้านการตลาดในแต่ละยุค
1.0  เน้นตัวสินค้า
2.0  เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
3.0  เน้นการใช้เทคโนโลยี การแพร่ขยายของการเชื่อมต่อทางอินเตอร์เน็ตมาสื่อสารและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า
4.0  ยุคที่ให้ความสำคัญกับโลกออนไลน์ในทุกๆด้าน ไม่เพียงแต่เรื่องการค้าขาย แต่ในเรื่องชีวิตประจำวันของเราทุกคน

แล้วธุรกิจโรงแรมที่ก็หลีกไม่พ้นที่จะตกอยู่ภายใต้คำว่า "เตรียมพร้อมเข้า 4.0" เช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆควรจะต้องทำอะไรบ้าง หมายถึงอะไร และเราจะทำอย่างไรกันดี

ไม่ต้องตื่นตระหนกหรือตกใจเวลามีใครมาพูดกับคุณโดยการใช้วาทกรรมแบบนี้ สิ่งที่คุณควรจะทำก่อนเป็นลำดับแรกก่อน ได้แก่
1) นั่งไล่เรียงลำดับการพัฒนาของธุรกิจโรงแรมของคุณว่า ผ่านอะไรมาบ้าง และในแต่ละช่วงเวลาคุณให้ความสำคัญกับอะไรในแต่ละช่วง
2) นำสถิติตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยที่ผ่านมามานั่งเทียบเคียงกับช่วงเวลาที่ธุรกิจโรงแรมของคุณเปิดให้บริการ เช่น ถ้าโรงแรมคุณเปิดมา 5 ปี ก็นำตัวเลขย้อนหลังของนักท่องเที่ยว 5 ปีมาเทียบเคียง
3) นำปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันมาใส่ข้อมูลเพิ่ม เช่น การเปลี่ยนแปลงของค่าเงิน การระบาดของโรคภัยต่างๆ หรือ น้ำท่วมอย่างสาหัสในบ้านเรา เหตุการ์ณความไม่สงบทางการเมือง
4) รวบรวมสิ่งที่โรงแรมของคุณกำลังดำเนินการอยู่ในด้านต่างๆ ณ ปัจจุบัน
         4.1) ด้านการตลาด
         4.2) ด้านการขาย
         4.3) ด้านภาพลักษณ์ของโรงแรม หรือการพัฒนาในเรื่องแบรนด์
         4.4) ด้านทีมงานให้บริการ เป็นอย่างไรในเรื่องคุณภาพ และวิธีการให้บริการ
         4.5) เรื่องเงินทุนหมุนเวียน

เมื่อนั่งไล่เรียงทั้ง 4 ข้อข้างต้นแล้ว ให้ลองสอบถามตนเองว่า ถ้ายุค 3.0 เป็นการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารผ่านทางอินเตอร์เน็ทให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพแล้ว ธุรกิจโรงแรมของคุณได้ใช้อย่างเต็มที่แล้วหรือยัง ......
.....ไม่ว่าจะเป็น
1) เว็บไซต์ ได้แก่ การใช้ข้อมูล การเขียนข้อมูล เรื่องราาวของธุรกิจของคุณบนเว็บไซต์
2) ระบบการจองห้องพัก 
3) การโต้ตอบกับลูกค้าผ่านทางอีเมล์ และช่องทางอื่นๆ
4) การใช้สื่อโซเชี่ยลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น facebook, instagram, Line@, YouTube, และอื่นๆ

ขอให้เริ่มจากตรงนี้ก่อนว่า คุณได้ทำให้เกิดการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพแล้วหรือยัง มีการสื่อสารที่มีเนื้อหาสาระที่น่าสนใจ ชวนให้ติดตามมากน้อยแค่ไหน อย่างไร มีการสื่อสารกับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอแค่ไหน สร้างฐานข้อมูลและสร้างฐานกลุ่มลูกค้าได้อย่างเข้มแข็งหรือยัง

ถ้าคุณคิดว่าคุณได้ทำสิ่งเหล่านี้เรียบร้อยและครบถ้วนแล้วจึงค่อยมาคิดในเรื่อง "นวัตกรรม" ว่าโรงแรมของคุณมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาในเรื่องนี้อย่างไร มีความเกี่ยวโยง หรือไม่เกี่ยวโยงกับ "แนวคิดหลัก" (Core Concept)ของโรงแรมของคุณหรือไม่ อย่างไร

หลายคนอาจหลงทางไปกับคำว่า "นวัตกรรม" โดยลืมหันกลับมามองว่า จริงๆแล้วแนวคิดหลักของโรงแรมคุณไม่ได้มีความจำเป็นในเรื่องเหล่านี้มากนัก หากแต่เป็นเรื่องการพัฒนาคุณภาพในการให้บริการต่างหากที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจการให้บริการอย่างเช่นโรงแรมที่พัก

อย่าไปคิดว่าคำว่า "นวัตกรรม" จะต้องเน้นความไฮเทคของเทคโนโลยีอะไรแต่เพียงด้านเดียว บางโรงแรมไม่ได้มีความจำเป็นเลยในการที่จะต้องมีหน้าจอทีวีกล่าวต้อนรับลูกค้าด้วยชื่อ เวลาลูกค้าเดินเข้ามาในห้องพัก ณ วันเช็คอิน ก็ไปลงทุนซื้อระบบต่างๆมาใช้งาน และคิดว่าตนเองพัฒนาในเรื่องการใช้เทคโนโลยีแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็ขาดการบำรุงดูแลรักษาและไม่ได้ใช้งานไปในที่สุด

นอกจากนี้การผสมผสาน หรือการบริหารธุรกิจระหว่างออฟไลน์และออนไลน์ ก็เป็นอีกด้านหนึ่งที่จะสะท้อนความก้าวหน้าและใช้นวัตกรรมในการบริหารการตลาด  เราจะจัดสรรธุรกิจอย่างไรระหว่างช่องทางการตลาดแบบเดิมหรือออฟไลน์  และการตลาดการขายยุคใหม่บนโลกออนไลน์ สาระสำคัญคือการทำความเข้าใจต้นทุนของแต่ละช่องทางว่าเป็นอย่างไร และเราควรจะบริหารอย่างไร

โดยสรุป สำหรับธุรกิจโรงแรมที่พักแล้ว  4.0 ไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัว แต่เป็นเรื่อง "การพัฒนาคุณภาพในการให้บริการโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยอย่างเต็มที่มีประสิทธิภาพ" ต่างหากที่ควรให้ความสำคัญ และที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือ อย่าลืมทบทวนแนวคิดหลักของคุณ เพื่อให้มั่นใจว่าการก้าวเดินไปข้างหน้าในด้านต่างๆนั้น จะไม่ขัดแย้งกับแนวคิดหลักของโรงแรม

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

#SM1-02 : Channel Manager คืออะไร?

สมัยก่อนการที่โรงแรมที่พักขนาดเล็กจะเปิดขายห้องพักผ่านทางช่องทางการขายออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการขายผ่านทางเว็บไซต์ของโรงแรมโดยตรง หรือขายผ่านทางออนไลน์เอเย่นต์หรือ OTA (Online Travel Agent) เป็นไปด้วยความไม่สะดวกมากนัก ทั้งในด้านเวลาที่ต้องใช้ในการจัดการผ่านทางสัญญาณอินเตอร์เน็ทที่ยังไม่ค่อยมีความเสถียร ทั้งในเรื่องจำนวนห้องพักที่จำกัดของโรงแรมที่พักขนาดเล็ก ทำให้การจัดสรรห้องพักให้เพียงพอต่อการขายและความต้องการของเอเย่นต์ในแต่ละช่องทางการขายมีอุปสรรคและปัญหาในหลายๆกรณี เช่น มีห้องพัก 15 ห้อง อยากขายผ่านออนไลน์กับเอเย่นต์มากมายเกือบ 10 ราย แต่เมื่อมีห้องน้อย ก็ไม่กล้าที่จะเปิดห้องขายกับหลายเอเย่นต์ เพราะกลัวจะไม่สามารถจัดสรรห้องขายได้ตามที่ควรจะเป็น กลัวห้องล้น หรือขายห้องซ้ำกันเกิดเป็น Double booking หรือ overbooked ในช่วงเทศกาล  การเปิดปิดห้องพัก ต้องเข้าไปทำทีละเอเย่นต์ เพราะฉนั้นยิ่งทำสัญญาเปิดขายมากเอเย่นต์เท่าไหร่ ก็ต้องเข้าไปเปิดและปิดห้องพักทีละเอเย่นต์เป็นต้น หลายปีที่ผ่านมามีโปรแกรมที่เข้ามาช่วยจัดสรรการขายในแต่ละช่องทางการขายเกิดขึ้นและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว หรือที่

SM1-04 : Lead Time คืออะไร

Lead Time คืออะไร หมายถึงอะไร นำมาใช้เกี่ยวกับโรงแรมได้อย่างไรบ้าง วันนี้เรามาแบ่งปันความรู้ ประสบการ์ณและทำความเข้าใจกัน โดยความหมายของคำศัพท์แล้ว จะหมายถึงระยะเวลาตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการจนเสร็จสิ้นกระบวนการ แล้วเกี่ยวอะไรกับโรงแรม ? สำหรับโรงแรมที่พักแล้วคำว่า Lead Time เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องได้ในหลายขั้นตอน แล้วแต่การนำมาใช้งาน หรือใช้เรียกในระหว่างกระบวนการการทำงาน เช่น + ระหว่างการก่อสร้าง  โรงแรมจะมีการวางแผนการสั่งเครื่องมือเครื่องใช้และอุปกรณ์ในการทำงานต่างๆ ซึ่งต้องมีการวางแผนและหาข้อมูลว่าเครื่องมือ เครื่องใช้ หรืออุปกรณ์อะไรบ้างที่มีระยะเวลาการสั่งสินค้าที่ต้องใช้เวลานานตั้งแต่การสั่งซื้อจนถึงการส่งมอบสินค้าเพื่อให้โรงแรมติดตั้ง  เช่น โรงแรมที่จำเป็นต้องใช้ลิฟต์โดยสาร หรือลิฟต์ขนของ สินค้ารายการนี้เป็นสินค้าที่ต้องใช้เวลาในการสั่งสินค้า และหากต้องการเลือกแบบที่ออกแบบเฉพาะของโรงแรม ลวดลายบนผนังห้องโดยสาร แผงปุ่มกด ราวจับภายในห้องลิฟต์ อาจต้องใช้เวลานานเพิ่มขึ้น หรือแม้การเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ในห้องโดยสารก็อาจมีผลต่อระยะเวลาการสั่งสินค้า   ดังนั้นทีมควบคุมการก่อสร

SM2-02 : สื่อสารผ่านโซเชี่ยล ให้รวดเร็ว คุณทำได้

ครั้งที่แล้วเราพูดกันไปถึงวิธีการจัดการกับการใช้สื่อโซเชี่ยลให้มีประสิทธิภาพโดยการมองภาพรวมให้เห็นว่าเราทำอะไรได้บ้าง และควรวางกรอบในการใช้สื่อแต่ละประเภทอย่างไรให้ประสานงานกันได้อย่างลงตัว คราวนี้เรามาดูเพิ่มเติมว่า สิ่งที่เราสามารถลงมือทำได้ก่อนเลยมีอะไรบ้าง สำหรับโรงแรมที่พักขนาดเล็กที่มักจะมีปัญหาว่า ตอบคำถามลูกค้าไม่ทัน หลังมีรีวิวเผยแพร่ภาพสวยๆของโรงแรมคุณ ทำให้มีลูกค้าสนใจสอบถามเข้ามามากมาย จนบางโรงแรมไม่สามารถจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ และทำให้ลักษณะการสื่อสารกับลูกค้าเปลี่ยนไปจากที่เคยน่ารัก ก็กลายเป็นไม่น่ารัก จนถึงระบายอารมณ์กับลูกค้าไปบ้างในบางครั้งเมื่อถูกเร่งมากๆ ถ้าเราทำความเข้าใจตั้งแต่แรกว่าโลกออนไลน์ คือ ความรวดเร็วและเทคโนโยลี สิ่งที่เราควรทำคือ "การเตรียมการที่ดี" และเรียนรู้การใช้สื่อต่างๆอย่างถูกต้อง รู้ว่าแต่ละเครื่องมือมีทางเลือกอะไรบ้าง มีฟังก์ชันการใช้งานอะไรที่จะช่วยเราให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้นได้บ้าง และในแบบไหน การที่เมื่อเกิดปัญหาขึ้น แล้วไปโทษโน่น โทษนี่ อันนี้คงไม่ใช่การบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ เรามาดูกันทีละขั้นตอนว่าเราสามารถ &quo