คำถามพบบ่อยอีกคำถามคือ โรงแรมเล็กจะต้องทำการตลาดอย่างไรให้ปัง
ก่อนจะทำให้ปัง อยากให้เริ่มมาตรวจเช็คสุขภาพกันก่อนว่าปัจจุบันโรงแรมของคุณ ทำอะไรไปแล้วบ้าง หรือยังไม่ได้ทำอะไรเลย แต่อยากจะปัง อยากจะดังในโลกออนไลน์
เบื้องต้นทำความเข้าใจกันก่อนว่า คำแนะนำนี้สามารถนำไปปรับใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นบูติกโฮเต็ล โฮสเทล โฮมสเตย์ บ้านพักตากอากาศ โรงแรมขนาดเล็กในเมือง หรือรีสอร์ทขนาดเล็ก ขอเพียงตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่าทำไมเราถึงต้องลุกขึ้นมาปรับตัวในเรื่องการตลาดออนไลน์
สิ่งที่ต้องย้ำอีกครั้งคือ เวลาพูดถึงตลาดออนไลน์ การตลาดออนไลน์ ไม่ใช่แค่เรื่องการสร้างแฟนเพจ หรือการโพสรูปลงบนอินสตาแกรมเท่านั้นนะ ยังมีอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวข้อง แต่ในครั้งนี้จะเน้นอะไรที่เราสามารถทำได้เองก่อน
หลัก ๆ ของการทำการตลาดออนไลน์ ก็คือ เราต้องการให้ลูกค้ารู้จักเรามากขึ้น เห็นเรามากขึ้น และหวังว่าจะได้มาเป็นลูกค้าผู้ใช้บริการและเกิดความประทับใจนำไปบอกต่อให้เรา
เรามาเริ่มเช็คสุขภาพกันไปทีละข้อกันดีกว่า
1. คุณมีเว็บไซต์แล้วหรือยัง ?
บางทีเราก็ตกใจนะเวลาลูกค้าบอกว่า "เราไม่ทำเว็บไซต์ เราใช้แค่หน้าเฟซบุ๊กกับอินสตาแกรมก็พอ" อืมมม...ก็ไม่แปลกนะ แต่ถ้าต้องการเติบโตในอนาคตเราว่ายังไงก็ทำดีกว่า เพราะจะสามารถทำอะไรต่อมิอะไรได้อีกมากมาย ประกอบกับปัจจุบัน ยกตัวอย่างเฟซบุ๊กที่มียอดการเข้าถึง (Reach) ที่ลดต่ำลงอย่างน่าใจหาย เพราะต้องการผลักดันให้ผู้ใช้งานไปใช้การโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ติดตั้งอยู่บนเฟซบุ๊กในการเพิ่มยอดการเข้าถึง ยอดไลก์ ยอดการปฏิสัมพันธ์ต่างๆ ทั้งคอมเม้นท์ และแชร์ ซึ่งเท่ากับว่าค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ก็จะเพิ่มขึ้นหากเราต้องการได้จำนวนผู้เข้าชม เข้าถึงหน้าเพจเราอย่างที่เคยได้มาสมัยก่อน
การทำเว็บไซต์เดี๋ยวนี้แสนจะง่าย ไปจองชื่อโดเมนก่อน และก็หาเว็บโฮสติ้งที่มีบริการหลังการขายที่ดี เพื่อที่เวลามีปัญหาอะไรจะได้ติดต่อแผนกช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง
หลังจากนั้น หากพอมีฝีมือและทักษะการใช้งานโปรแกรมสำเร็จรูป ก็มีเว็บไซต์สำเร็จรูปมากมายที่เราสามารถทดลองทำได้ เช่น weebly.com เป็นต้น หรือหากไม่สะดวก ก็สามารถว่าจ้างผู้ออกแบบอิสระให้มาช่วยวางรูปแบบของเว็บไซต์ให้ได้ ประเด็นของการทำเว็บคือ คุณต้องมีเรื่องราว มีข้อความที่จะเขียนบนเว็บของคุณ มีรูปภาพที่สวยงามตามคอนเซ็ปต์ของโรงแรมที่จะใช้งานบนเว็บไซต์ หรือหากมีงบประมาณมากขึ้น ก็สามารถว่าจ้างบริษัทที่รับออกแบบเว็บไซต์ทั้งแบบสำเร็จรูป และแบบที่วาดใหม่ ก็มีบริษัทที่รับทำเช่นกัน ซึ่งเขาจะมีสินค้าที่จะนำเสนอพ่วงมาอีก เช่น ระบบจองห้องพัก (Booking Engine) ระบบจัดสรรห้องพักกับออนไลน์เอเย่นต์ (Channel Manager) รวมไปถึงทำพวก SEO - Search Engine Optimization และบริการอื่นๆตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
ขอย้ำเรื่อง 3 เรื่องสำหรับเว็บไซต์โรงแรม คือ
1) ระยะเวลาการโหลดข้อความและภาพบนเว็บไซต์ว่าควรรวดเร็ว และฉับไว ตอบสนองต่อพฤติกรรมของลูกค้า
2) รองรับการแสดงภาพและข้อมูลบนเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด หรือที่เรียกว่า Responsive Website เพื่อให้ทุกระบบของมือถือสามารถเข้าถึงได้ง่าย รวมทั้งอุปกรณ์แท็บเล็ทต่างๆ
3) มีภาษาให้เลือกหลายภาษา เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
2. คุณทำ Business Listing แล้วหรือยัง
เมื่อมีเว็บไซต์แล้ว คุณก็ควรจะทำให้ลูกค้าหาคุณเจอ เพราะพฤติกรรมของลูกค้าจะค้นหาข้อมูลจาก Google เป็นหลัก อย่าปล่อยให้ลูกค้าพบคุณจากเอเย่นต์ออนไลน์ หรือ OTA (Online Travel Agent) แต่เพียงอย่างเดียว
ถ้ายังไม่ได้ทำ แค่เพียงเปิดบัญชี Google Account แล้วก็เริ่มตามขั้นตอนตามลิงก์นี้ได้เลย https://www.google.com/business/
หากคุณทำเสร็จเรียบร้อย ต่อไปเวลาที่ลูกค้าค้นหาคุณใน Google ก็จะมีภาพของโรงแรมคุณ พร้อมรายละเอียด และทางเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ และการเดินทางไปยังโรงแรมคุณ ที่สำคัญกรุณาลงตำแหน่งที่ตั้งของคุณให้ถูกต้องบนแผนที่เพื่อไม่ให้ลูกค้าหลงทาง
3. ทำ Google Analytic แล้วหรือยัง เพื่อดูข้อมูลสิ่งที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่าทำตลาดออนไลน์โดยที่ยังไม่ได้วิเคราะห์ข้อมูล หรือดาต้าที่เกิดขึ้น สามารถเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://analytics.google.com
หากคุณสนใจทำการตลาดออนไลน์เพิ่มเติมกับ Google เขาก็มีหลายผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอมากมาย เพื่อช่วยให้ลูกค้าหาคุณเจอง่ายขึ้น และคุณยังสามารถกำหนดหรือเลือกกลุ่มลูกค้าได้ตามพฤติกรรม ความชอบ รสนิยม และรูปแบบการใช้ชีวิตตามต้องการได้ ซึ่งในข้อนี้หากไม่สะดวกในการทำเอง แนะนำให้ใช้บริการบริษัทที่รับทำ ซึ่งก็สามารถหาได้จากพันธมิตรที่ร่วมกับ Google เช่นกันที่จะสามารถให้คำแนะนำได้ เช่น
3.1 SEO - Search Engine Optimization
3.2 AdWords
3.3 RLSA - Remarketing Lists for Search Ads
สิ่งที่ไม่ควรลืมคือการนำข้อมูลที่มีอยู่ ข้อมูลที่ผ่านบนเว็บไซต์ของเรามาทำให้เกิดประโยชน์
4. เปิดบัญชี Social Media แล้วหรือยัง ต้องย้อนกลับไปถามว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณใช้สื่อประเภทไหนบนโลกโซเชี่ยลมีเดีย และคุณมีบุคคลการที่สามารถบริหารจัดการได้หรือไม่ อย่างไร ไม่จำเป็นต้องเปิดเยอะ ขอให้เปิดใช้เท่าที่จำเป็น เพราะเราต้องการความสม่ำเสมอและต่อเนื่องในการสื่อสารกับลูกค้า ไม่ใช่เปิดบัญชีขึ้นมาแล้วแต่ไม่โพสข้อความอะไรเลย หรือนานทีปีหนจะโพสซักครั้งหนึ่ง
เริ่มจาก 2 สื่อยอดนิยมในบ้านเราก่อนคือ Facebook และ Instagram ที่มีจำนวนผู้ใช้งานอย่างมหาศาล ซึ่งรวมไปถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยเช่นกัน
หากเปิดบัญชีแล้ว เริ่มจากการตรวจเช็คข้อมูลก่อนว่า ลงถูกต้องหรือไม่ ตั้งแต่ชื่อภาษาไทย ภาษาอังกฤษ เบอร์ติดต่อ ที่อยู่ ตำแหน่งบนแผนที่ การเชื่อมโยงลิงก์ต่างๆกลับไปที่เว็บไซต์เราถูกต้องหรือไม่ หรือเชื่อมโยงไม่ได้ การเพิ่มปุ่มต่างๆ ได้ทำแล้วหรือยัง ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม Book Now, Learn More, Message, Contact ถ้าคุณเลือกใช้ฟังก์ชั่นเหล่านี้แล้ว คุณเคยทดสอบหรือไม่ว่า หน้าตาข้อความที่ส่งมาเป็นอย่างไร
บางครั้งดูเหมือนเป็นข้อมูลง่ายๆ พื้นฐาน แต่หลายครั้ง หลายโรงแรมก็มาตายตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐานแล้ว
5. อยากใช้สื่อประเภทอื่นๆ หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น Line@ หรือ YouTube ถ้าต้องการใช้ ก็ควรจัดสรรบุคคลากรที่ดูแลอย่างเป็นเรื่องเป็นราว และอะไรที่เราไม่สามารถทำเองได้ก็ควรหาคนที่ทำได้มาช่วย เช่น อยากจะมีภาพวิดีโอสวยๆ เหมือนอย่างคนอื่น อยากมีภาพมุมสูงถ่ายจากโดรน อันนี้ก็ต้องจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการในส่วนนี้ และหากจะเปิดช่อง YouTube ก็ควรมั่นใจในเรื่องความสม่ำเสมอในการโพสเช่นกัน
ส่วน Line@ อาจจะทำเองได้ไม่ยากมาก แต่ควรกำกับควบคุมเรื่องภาษาที่ใช้สื่อสารให้เหมาะสม และถ้าหากจะไปถึงการลงสื่อแบบการทำ Rich Massage ก็คงต้องฝึกฝน หรือหาคนมาช่วยทำให้เป็นเรื่องเป็นราว
เอาแค่ 5 ข้อก่อนเบื้องต้น
และอย่าลืม ขอให้พิจารณาเรื่อง
1) งบประมาณ
2) ผู้รับผิดชอบ
3) ความสม่ำเสมอในการใช้งาน
4) การวางแผนการใช้งาน การทำตารางการโพสข้อความ รูปภาพ หรือภาพเคลื่อนไหวให้สม่ำเสมอและมีเรื่องราว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น